สำนักยูเรเนียน ( The Uranian School) ก่อตั้งขึ้นในประเทศเยอรมนี โดย Alfred Witte ด้วยการสนับสนุนของนาย Friedrich Sieggruen และนาย Ludwig Rudolph เดิมเป็นที่รู้จักภายใต้ชื่อสำนักฮัมบูร์ก (The humburg School) แต่ต่อมาได้ขยายไปอเมริกาโดยการนำของนาย Hans Niggeman (ลูกศิษย์และเพื่อนของนาย Witte) และได้เปลี่ยนเป็นสำนักยูเรเนียนขึ้นแทน
.
ในปัจจุบัน โหราศาสตร์ฮัมบูร์กกับโหราศาสตร์ยูเรเนียนมีความแตกต่างกัน จนอาจจะกล่าวว่าเป็นคนละสำนัก ทางนี้ เนื่องจากแต่ละฝ่ายได้พัฒนาวิธีการต่างๆแยกออกไป นอกจากนี้ ยังแตกแขนงออกเป็นสำนักที่เรียกตัวเองว่าคอสโมไบโลโยี่ (The cosmobiology School) โดยมีนาย Reinhold Ebertin เป็นผู้ก่อตั้ง
เมื่อมีการแยกเป็นสำนัก ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดความบาดหมางและขัดแย้งกัน ผมจึงมีความเห็นว่าควรศึกษาวิธีการของโหราศาสตร์ (ไม่ว่าจะเป็นของสำนักไหน) มากกว่ายึดติดเรื่องสำนัก ใครถนัดใช้วิธีการไหน (หรือจะผสมผสานวิธีการต่างๆอย่างไร) ก็ทำไป
.
วิธีการเปรียบเสมือนอาวุธหรือเครื่องมือ จอมยุทธบางคนอาจจะถนัดใช้กระบี่ บางคนอาจจะถนัดดาว หอก ทวน มีดสั้น ฯลฯ แต่ละคนไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเหมือนกันเพื่อออกรบ อาวุธดีเลอร์แค่ไหนหากจอมยุทธใช้ไม่เป็น ออกรถเมื่อไหร่ก็ตายลูกเดียว ในที่สุดแล้วจอมยุทธต้องสร้างชื่อเสียงหรือความศรัทธาขึ้นด้วยฝีมือและอาวุธที่ตนเองถนัด
.
โหราศาสตร์ยูเรเนียนน่าจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของโหราศาสตร์สากลเพราะมีจุดกำเนิดมาจากวิธีการของโหราศาสตร์สากล ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Transits, Mid-Point, Solar Arc Direction หรือ Antiscia แต่ได้นำไปพัฒนาต่อ อย่างไรก็ตาม โหราศาสตร์ยูเรเนียนมีคุณลักษณะที่ทำให้แตกต่างไปจากโทรศัพท์สากลทั่วไป ดังต่อไปนี้
.
1. เน้นใช้การหมุน 90 องศามากกว่าวงล้อ 360 องศา
2. ใช้ Transneptunian planets ซึ่งเป็นดาวเคราะห์สมมุติที่ยังไม่ค้นพบ (ประกอบไปด้วย คิวปิโด ฮาเดส เซอุส โครโนส อโพลอน วัลคานุส โพไซดอน)
3. ให้ความสำคัญกับมุม 22 องศา 30 ลิปดา และมุม 45 องศาของดวงดาว
4. ไม่ให้ความสำคัญกับการทำมุมของดาวที่ราบรื่น เช่นมุม 60 องศา 60°มุม องศา หรือตรีโกณ เป็นต้น
5. ใช้ Mid-Point ซึ่งคือจุดกึ่งกลางระหว่างดาว 2 ดวง เป็นหลักมากกว่าโหราศาสตร์สากล
6. ไม่ให้ความสำคัญเรื่องเรือนภพ
7. ใช้ Equatorial Ascendent ซึ่งเป็นลัคนากำหนดขึ้นที่เส้นศูนย์สูตรของโลก
.
โหราศาสตร์เป็นวิชาเก่าแก่หลายพันปี วิธีการพยากรณ์มีอยู่มากมาย บางวิธีการก็สูญหายไป ไม่ว่าจะเป็นเพราะสงคราม ถูกทางการสั่งเผาตำรา (สำนักยูเรเนียนก็เคยถูกฮิตเลอร์สั่งเผาตำราเช่นกัน) ผู้มีวิชาไม่ถ่ายทอดให้คนรุ่นหลัง (หรือถ่ายทอดไม่หมด) หรือคนไม่สนใจเรียนเพราะเป็นวิชานอกรีด ฯลฯ บางวิธีก็หมดความนิยมไปเพราะใช้ไม่ได้ผล หรือผู้สอนไม่เข้าใจหลักวิชาจึงสอนกันผิดๆถูกๆ จนวิชาเสื่อมไปในที่สุด สำนักยูเรเนียนจึงมีบทบาทสำคัญในการนำเอาวิธีการเก่าๆที่เสื่อมความนิยมไป กลับมาพัฒนาและใช้ต่อ
:)
จากหนังสือ “ถอดรหัสลับดวงดาว” ยูเรสโต(ดร.เจษฎา โลหอุ่นจิตร) ผู้เขียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น