ต่อไปนี้เป็นเรื่องของดวงราศีจักร 😄
.
เอาสมมุติง่ายๆ อย่างนี้ว่าในดวงชะตา(ราศีจักร)มีดาวเสาร์จรแค่ดวงเดียว ส่วนในดวงกำเนิดมีจุดเจ้าชะตาอยู่หนึ่งปัจจัยซึ่งอาจจะเป็นลัคนา อาทิตย์ หรือจันทร์ก็ได้อันนี้ไม่ใช่สาระเท่าไหร่
.
เราสมมติต่อไปอีกว่าดาวเสาร์จรซึ่งเป็นตัวแทนของความทุกข์ขณะนี้สถิตอยู่ในราศีเมษ(จะกี่องศาลิปดาก็ขอละไว้เพราะนี่กำลังกล่าวถึงดวงราศีจักร)
.
คำถามก็คือจุดเจ้าชะตาในดวงกำเนิดจะต้องอยู่ในตำแหน่งใดจึงจะได้รับผลจากดาวเสาร์จรที่ว่านี้?
คำตอบง่ายๆ มีดังนี้
.
ประการแรกสุดคือมุม “กุม” หมายถึงจุดเจ้าชะตาอยู่ในตำแหน่งราศีเมษด้วยกันกับดาวเสาร์นั่นแหละ ถือว่าเป็นมุมที่ให้ผลรุนแรงที่สุด รองลงมาคือมุม “เล็ง” หรือฝั่งตรงข้ามซึ่งก็คือราศีตุลย์
.
ต่อมาคือมุมฉาก 90 องศาหรือมุมสี่เหลี่ยมซึ่งเรียกกันว่า “จตุเกณฑ์” (บางทีก็เรียกว่าจตุโกณก็แล้วแต่สำนักจะสอนกันมา) ในที่นี้ก็คือตำแหน่งราศีกรกฎและมกร
.
ต่อมาคือมุมสามเหลี่ยมเรียกว่า “ตรีโกณ” ในที่นี้ก็คือตำแหน่งราศีสิงห์กับธนูนั่นเอง
.
นอกจากนี้ก็มีมุมที่เรียกว่า “โยค” คือราศีที่เว้นไปหนึ่งช่องจากจุดเริ่มนับ ซึ่งมีทั้งโยคหน้าและโยคหลัง ในที่นี้คือราศีมิถุนและกุมภ์
.
ที่กล่าวมาถึงนี้ทั้ง กุม เล็ง ฉาก ตรีโกณ และโยค คือ 5 มุมสำคัญซึ่งใช้กันโดยทั่วไปในวิชาโหราศาสตร์แทบจะทุกสำนักในโลกนี้
.
(แต่ละมุมมีความหมายมีรายละเอียดเฉพาะซึ่งแตกต่างกันออกไป เช่นมุมตรีโกณนั้นให้ผลนุ่มนวลผสมผสานมักให้คุณมากกว่าโทษ แต่บางสำนักก็บอกว่าไม่ใช่จะให้คุณหรือโทษให้ไปดูคุณสมบัติอื่นประกอบไปด้วย ก็ว่ากันไปตรงนี้ยังไม่ขอกล่าวถึง)
.
จากตัวอย่างที่ยกมานี้เราอาจจะกล่าวอย่างนี้ได้ว่า
.
“ในช่วง 1 เดือนนี้ผู้ที่ได้มีเกณฑ์ได้รับความเดือดร้อนได้แก่ชาวราศี เมษ ตุลย์ กรกฏ มกร สิงห์ ธนู มิถุน และกุมภ์"
.
ขุ่นพระ สิริรวมแล้วปาเข้าไป 8 ราศี!!!!
.
คิดง่ายๆ ว่าเป็นประชากรเกือบจะ 3 ใน 4 ของโลกกันเลยทีเดียว 😑
.
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่เป็นการอธิบายให้ฟังว่า คำทำนายสำเร็จรูปที่ชอบเอามาแชร์กัน (ที่มันมีราศีเยอะๆ) นั้นมันมาจากไหน (ถ้ามันไม่มั่ว)
.
มันมีที่มาแบบนี้แหละ 😑
.
ในทางปฏิบัติจริงบางท่านซึ่งมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องวิชาโหราศาสตร์ (แต่ชอบแนวนี้หรือจำเป็นต้องเขียนแนวนี้ด้วยเหตุผลประการทั้งปวง) ก็อาจจะตัดตำแหน่งราศีซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่น่าจะเกิดผลอะไรออกไปได้บ้างตามการวินิจฉัยของตนเอง
.
ตรงนี้ก็ช่วยลดจำนวณไปได้เยอะ เช่นบางท่านตัดตรีโกณออกเพราะมีความเห็นว่าเป็นมุมที่ดีไม่น่าจะอะไรกับเสาร์ ตรงนี้ก็หายไปแล้ว 2 ราศี
.
แต่ถามว่าไอ้ประเภทที่มากันเป็นโขยงเหมาหมด 7-8 ราศีนี่มากันยังไง?
.
คำตอบก็คือมันก็มากันแบบนี้แหละ
.
เวลาพยากรณ์ดวงชะตากันแบบจริงจังมันเลยต้องมีรายละเอียดประเภทองศาหรือลิปดาของแต่ละปัจจัย (ทั้งกำเนิดและจร) เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือต้องมีดวงซึ่งเป็นส่วนขยายเช่นดวงตรียางค์จักร หรือดวงนวางค์จักร เข้ามาช่วย ซึ่งตรงนี้มีรายละเอียดเยอะมาก แยกกันไปสำนักใครสำนักมัน
.
จะเล่นง่ายเอาแต่ดาวจรเป็นรังปืนกลแล้วกราดยิงแบบนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด
😄
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น