การให้คำพยากรณ์

นอกจากนี้ โหราศาสตร์ใช้ได้เพราะหมอดูในแต่ละสมัยพยายามเลือกเอาเฉพาะเหตุการณ์ที่สังคมหรือผู้คนทั่วไปในสมัยนั้นให้ความสำคัญ เพราะเป็นการช่วยลดจำนวนความหมายของดาวให้เหลือน้อยลง
.
แน่นอนที่สุดสังคมยังแยกออกเป็นชนชั้น ซึ่งเรื่องสำคัญของแต่ละชนชั้นก็แตกต่างกันออกไป ทำให้ความหมายลดลงไปได้อีก
.
ดังนั้นหากรู้ฐานะของเจ้าชะตา หรือมีข้อมูลของเจ้าชะตาประกอบ ก็ย่อมทำให้การทำนายมีโอกาสถูกต้องได้มากขึ้น



ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเสาร์จรเล็งจันทร์ บอกให้รู้ว่าผู้นั้นกำลังมีแรงกดดันทางอารมณ์ความรู้สึก ถ้าการทำนายหยุดเพียงแค่นี้โอกาสผิดจะมีน้อยกว่า
.
แต่หากต้องการชี้ชัดให้ละเอียดถึงเหตุการณ์เฉพาะเจาะจง
.
เช่นการซ่อมบ้าน การเจ็บป่วยของแม่ การสอบตกวิชาประวัติศาสตร์ เป็นต้น
.
โอกาสผิดจะเพิ่มขึ้น
.
ยิ่งถ้าเลือกความหมายที่คนส่วนใหญ่สมัยนี้ไม่ให้ความสำคัญ ก็ยิ่งมีโอกาสผิดสูง
.
เช่นในกรณีตัวอย่างเดียวกันนี้ ทำนายว่าจะสูญเสียของเก่า หรือสอบตกวิชาประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างเฉพาะเจาะจงสำหรับคนบางกลุ่มเท่านั้น (เช่นพวกชอบสะสมของเก่า หรือนักศึกษาที่เรียนวิชาประวัติศาสตร์อยู่)
.
หมอดูก็มีโอกาสหน้าแตกสูง
.
แต่ถ้ามีข้อมูลว่า เจ้าชะตาเป็นนักค้าของเก่าหรือเป็นนักศึกษาสาขาประวัติศาสตร์ที่กำลังจะสอบไล่ โอกาสทำนายถูกต้องก็จะมากขึ้น
.
มองอีกด้านหนึ่ง
.
หากไปดูหมอแล้วได้รับการทำนายว่าจะต้องซ่อมบ้านเพราะเสาร์เล็งจันทร์ แต่กลับไม่เป็นจริงตามที่บอก
.
จะถือว่าโหราศาสตร์ไม่มีหลัก เป็นเรื่องงมงาย หรือว่าหมอดูเดาผิด ทั้งหมดนี้ต้องดูว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างในชีวิตของเจ้าชะตา
.
เช่นหากมีเหตุการณ์แม่ล้มป่วย หรือมีความขัดแย้งกับผู้หญิง ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องของเสาร์เล็งจันทร์
.
ดังนั้นไม่ถือว่าหลักโหราศาสตร์ผิด
.
แต่เป็นเพียงเพราะหมอดูเลือกฟันธงเหตุการณ์ผิดพลาดไปเท่านั้น
.
เราต้องรู้ข้อจำกัดของโหราศาสตร์ว่า
.
ไม่สามารถแม่นยำได้ถึงระดับปลีกย่อยทุกเรื่อง หากแต่เป็นภาพใหญ่ๆ โหราศาสตร์มักไม่ผิด

:)

จากหนังสือ : ถอดรหัสลับดวงดาว ของอาจารย์ ยูเรสโต

:)

#ทายผิดอย่างมีหลักการดีกว่าทายถูกเพราะเดาล้วนๆ