วิชาโหราศาสตร์นั้นโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน
1. วิชาโหราศาสตร์ที่ว่าด้วยการคำนวณตำแหน่งของดวงดาว หรือตัวเลข เช่นโหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์สากล ยูเรเนี่ยน หรือเลขเจ็ดตัว วิชาโหราศาสตร์พวกนี้อาศัยความสามารถในการคำนวณค่าทางตัวเลขตามพิกัดต่างๆ แล้วค่อยเอามาถอดรหัสตีความหมายออกมาเป็นคำทำนาย ข้อเสียก็คือความยุ่งยาก แต่ข้อดีคือความมั่นคงของหลักวิชา เราสามารถที่จะคำนวณหาผลที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาต่างๆ ทั้งไปหน้า(อนาคต)และถอยหลัง(อดีต)ราวกับกำลังสร้างแผนที่เส้นทางชีวิตขึ้นมา อีกทั้งไม่ว่าจะคำนวนซ้ำๆ หรือทำนายซ้ำๆ อย่างไรก็ตามค่าผลลัพธ์การทำนายก็จะยังคงมั่นคงในตำแหน่งเดิมเสมอ
2. วิชาโหราศาสตร์ที่ว่าด้วยการเสี่ยงทาย เช่นไพ่ Tarot อี้จิง การเสี่ยงทายอักษรรูน หรืออื่นๆ ข้อดีของโหราศาสตร์แบบนี้คือความไม่ยุ่งยาก ขอให้เข้าใจในหลักการก็สามารถเสี่ยงทายถอดรหัสคำทำนายออกมาได้ในทันที แต่ข้อเสียคือความไม่มั่นคงของคำทำนาย อธิบายง่ายๆ คือหากทำนายซ้ำๆ หรือทำนายเรื่องเดิมซ้ำในช่วงเวลาใกล้ๆกัน ผลลัพธ์ก็ย่อมจะเปลี่ยนแปลงไป (จึงมีคำแนะนำเกี่ยวการใช้วิชาในกลุ่มนี้ว่าไม่ควรทำการเสี่ยงทายทำนายบ่อยเกินไป)
3. วิชาโหราศาสตร์ที่ว่าด้วยการสังเกต เช่นการดูลายมือ โหงวเฮ้ง ฮวยจุ้ย(ซึ่งในขั้นสูงจะมีเรื่องของการคำนวณเข้ามามีส่วนเป็นอย่างมาก)
แต่ไม่ว่าจะเป็นโหราศาสตร์ประเภทใดก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วก็หนีไม่พ้นเรื่องการถอดรหัสตีความหมายจากความคลุมเครือของคำทำนายอยู่ดี
พอมาถึงขั้นนี้แล้วท้ายสุดก็จะวัดความแม่นยำจากสัญชาติญาณในการอ่านรหัสที่มีอยู่ในตัวของแต่ละคนว่าจะมีกันได้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีโหราศาสตร์ใดตรงไปตรงมา โหราศาสตร์จึงเป็นเรื่องของศิลปะในการถอดรหัสจากสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในปัจจัยที่เป็นต้นทุนในการทำนาย
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สร้างสรรค์ที่สุดต่อจิตใจของผู้คน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น