1. จากแนวเส้นวระวิมรรค ได้มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 12 ส่วน (ส่วนละ 30 องศา) แต่ละส่วนมีดาวฤกษ์ใดประจำพื้นที่อยู่ก็เรียกชื่อไปตามนั้น เราเรียกพื้นที่ทั้ง 12 นี้ว่าราศี
2. จุดเริ่มต้นในการนับระยะทางบนเส้นระวิมรรคจะอยู่ที่ราศีเมษ จากนั้นก็ไล่ลำดับไปยังพฤษภ มีน กรกฏ สิงห์ กันย์ ตุล พิจิก ธนู มกร กุมภ์ มีน
3. เมื่อดาวดวงใด(เช่นอาทิตย์ จันทร์ เนปจูน) เคลื่อนที่ไปตามแนวระวิมรรค อยู่ในตำแหน่งเท่าใดก็เรียกขานตำแหน่งไปตามราศีนั้นๆ เช่นดาวอาทิตย์อยู่ราศีกรกฏ 15 องศา 5 ลิปดา ก็หมายความว่าขณะนี้ดวงอาทิตย์ได้อยู่ในตำแหน่ง 15 องศา 5 ลิปดา โดยเริ่มนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของราศีกรกฏ (คือ 115 องศา 5 ลิปดา เมื่อนับจากเส้นวงระวิมรรคทั้งวง)
4. การผูกดวงแท้จริงก็คือภาพ snapshot ของดาวต่างๆ บนท้องฟ้าตามเส้นทางระวิมรรคในเวลาที่ระบุ (เช่นเวลาเกิด) ดาวใดอยู่ในตำแหน่งใดก็ระบุตำแหน่งโดยวาดเป็นภาพดวงชะตาขึ้นมา
5. ดาวดวงใดอยู่ในราศีใด ก็แปลความหมายไปตามนั้นจนกระทั่งครบทุกดวงดาว(หรือปัจจัยอื่นๆ)
6. นอกจากราศีแล้ว เส้นวงระวิมรรคยังถูกแบ่งออกเป็น 12 ส่วน(ซ้อนทับกับการแบ่งราศี) เรียกว่าเรือนชะตา(House) โดยแต่ละช่วงจะถูกกำหนดให้มีความหมายที่แตกต่างกัน
7. การแบ่งเรือนชะตาทำได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าตำราไหนวิชาใดจะกำหนดหลักเกณฑ์ขึ้นมาอย่างไร ที่น่าสนใจก็คือการเรียงลำดับและความหมายโโยเฉพาะในเรือนหลักๆ มีกจะตรงกัน
8. วิธีแบ่งเรือนชะตาที่ง่ายที่สุดก็คือการใช้ราศีเองเป็นตัวแบ่ง เช่นโหราศาสตร์ไทยและอินเดีย โดยใช้ช่องราศีแต่ละช่องเป็นช่องเรือนชะตา จุดลัคคนา(Ascendent)ในดวงชะตาอยู่ราศีใดก็นับราศีนั้นเป็นเรือนแรก
9. อีกวิธีการหนึ่งที่ได้รับความนิยมก็คือการแบ่งพื้นที่เรือนชะตาออกเป็นช่องละ 30 องศาเท่ากัน(เหมือนกับการแบ่งราศี) แต่จุดเริ่มต้นของการแบ่งช่องจะอยู่ที่ตำแหน่งลัคคนา(Ascendent)ในดวงชะตา นับจากจุดเริ่มต้นนี้ก็นับไป 30 องศาก็จะแบ่งพื้นที่ขึ้นเป็นเรือนที่ 2 แล้วแบ่งเรื่อยไปจนครบ 12 เรือน
10. อีกวิธีการหนึ่งที่นิยมก็คือการแบ่งเรือนชะตาแบบมีพื้นที่แต่ละเรือนไม่เท่ากัน เช่นการแบ่งเรือนแบบพลาซิดุส วิธีการนี้เดิมทียุ่งยากต้องมีการคำนวนหาพื้นที่ให้กับแต่ละช่องเรือนชะตา แต่ทุกวันนี้ใช้โปรแกรมคำนวนได้อย่างรวดเร็ว (เริ่มคำนวนที่จุดลัคคนา(Ascendent)เป็นจุดเริ่มต้นเช่นกัน)
11. เรือนชะตาแต่ละช่องมีความหมายเฉพาะในตัวเอง ดาวใดตกในราศีใด ในพื้นที่เรือนชะตาใดก็ผสมความหมายทำนายไปอย่างนั้น
.... ยังมีต่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น