ในคัมภีร์ปทมังท่านว่า “ปถมัง กาละลังโหติ” อ.คึกฤิทธิ์ ท่านให้ความหมายในทำนองว่า “ในเบื้องต้นนั้นมีแต่เพียงหนึ่ง” ก่อนจะเป็นหนึ่งนั้นเป็นความว่างมาก่อน เมื่อความว่างสัมผัสเข้ากับอวิชชา (คือความไม่รู้ว่าตัวไม่รู้) จึงปรุงแต่งจนกลายเป็น 1 และจาก 1 นี้เองจึงค่อยแตกแยกออกเป็น 2 เป็น 4 เป็น 8 เรื่อยไปจนกลายเป็นสรรพสิ่งต่างๆ ขึ้นมา จะอยู่ดีๆ แล้วโผล่ขึ้นมาเป็นสิ่งต่างๆ นั้นหาได้ไม่
ส่วนในคัมภีร์ของศาสนาเต๋าท่านว่า สรรพสิ่งต่างๆล้วนเกิดจากความ “ว่าง” (อู๋จี๋) และจากความว่างนี้จึงค่อยกลายเป็นความ “เต็ม” โดยในเบื้องต้นนั้นความเต็มยังคงสมดุล(ไท่จี๋) จนกระทั่งเมื่อเสียภาวะสมดุลไปจึงเกิดการแบ่งแยกเป็นอิน เป็นหยาง เป็นความมืดความสว่าง เป็นความอ่อนความแข็ง เป็นความดีความเลว เป็นทวิสภาวะต่างๆ
และไม่ว่าจะพุทธหรือเต๋าสุดท้ายแล้วปลายทางของทุกสรรพสิ่งคือการกลับคืนสู่ 1 คืนสู่ความว่างอันเป็นประถมของทั้งปวง (แต่จะกลับคืนได้ตอนไหนยังไงนั่นอีกเรื่อง)
ใน Tree of Life สรรพสิ่งย่อมบังเกิดโดยพระประสงค์ใน Kether เมื่อแรกเกิดจึงยังบริสุทธิ์ ไร้มลทิน เป็นสิ่งที่คล้ายนามธรรม มีอยู่แต่ก็มิอาจบรรยายได้โดยง่ายว่าสิ่งนี้คืออะไร (ทำนองเดียวกับศาสนาเต๋าที่บอกว่า เต๋านั้นอธิบายไม่ได้ เพราะถ้าหากอธิบายได้ก็จะสูญเสียความเป็นเต๋าไป)
จาก Kether นี้เองจึงค่อยแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นๆ เดินทางผจญภัยไปตาม Sefirot ต่างๆ ดุจนักเดินทางที่ออกผจญภัยไปตามเมืองต่างๆ ฉะนั้น
ที่เสา Mercy เราจะเห็นอยู่ 3 สภาวะ คือ Chockmah (ภูมิปัญญา ความฉลาด ความเป็นบิดา) Chesed (ความเมตตาปราณี ปกป้องคุ้มครอง) และ Netzach (ชัยชนะ ความสวยงาม ความมีเสน่ห์)
ส่วนที่เสา Severity จะเห็นอยู่ 3 สภาวะ คือ Binah (ความเข้าใจ ความรัก ความเป็นมารดา) Geburah (ความแข็งแกร่ง อดทน พลังแห่งการทำลาย) และ Hod (ไหวพริบ เล่ห์เหลี่ยม การติดต่อสื่อสาร)
ทั้งเสา Mercy และ Severity เป็นภาวะตรงข้ามกัน (เป็นอินเป็นหยาง)
Chockmah (ปัญญา) เป็นภาวะที่ตรงข้ามกับ Binah (อารมณ์)
Chesed (เมตตา) เป็นภาวะที่ตรงข้ามกับ Geburah (ทำลาย)
Netzach (เสน่ห์) เป็นภาวะที่ตรงข้ามกับ Hod (ไหวพริบ)
ในชั่วแต่ละลมหายใจ สภาวะจิตของท่านได้ท่องเที่ยวไปยังที่แห่งใดกันล่ะ?
ที่เสาทั้ง 2 นี้ เมื่อมาวิเคราะห์ดูให้ดีก็จะพบว่า มันได้ถูกไล่เรียงจากความเป็นนามธรรมไปสู่ความเป็นรูปธรรม (จากบนลงล่าง) ยิ่งออกห่างจาก Kether (สวรรค์) มากเท่าไหร่ก็สูญเสียความโลกุตระ และยิ่งเข้าใกล้ Malkuth (โลก) มากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความเป็นโลกียะมากยิ่งขึ้น
ในภาพแผนผัง Tree of Life เราจะเห็นว่าทั้ง Chockmah (ปัญญา) Binah (อารมณ์) Chesed (เมตตา) Geburah (ทำลาย) Netzach (เสน่ห์) และ Hod (ไหวพริบ) ล้วนมีเส้นโยงไปถึง Tiphareth อันเป็นตำแหน่งของจิตแห่งพระเจ้า
นั่นเพราะ ปัญญา ความรัก ความเมตตา ความแข็งแกร่งอดทน ความมีเสน่ห์เป็นรัก และความมีไหวพริบ ล้วนเป็นคุณสมบัติสำคัญของความเป็น Tiphareth ทั้งสิ้น
ข้อนี้ที่จริงรวมไปถึง Kether (บริสุทธิ์ ไร้มลทิน) และ Yesod (เก็บรักษา เก็บสะสม) ด้วย
หากการเดินทางผ่านเสา Mercy หรือ Severity ไม่สามารถพาตัวเองให้ไปสู่ Tiphareth ได้ (กลับไป Kether นั้นไม่ต้องพูดถึง) สุดท้ายมันก็จะอ้อมไปหา Yesod (คลัง การเก็บสะสม ความต้องการต่างๆ) อันจะนำไปสู่ Malkuth (ความสุขแบบโลกๆ) อันเป็นจุดหมายปลายทางในท้ายที่สุด
เป็นความสุข ความสมบูรณ์ แต่ก็เป็นสุขสมบูรณ์แบบโลกๆ ยังห่างใกลจากภาวะแห่งพระเจ้านัก
การจะกลับคืนสู้ Tiphareth น่ะหรือ?
ก็ต้องละ Malkuth (ความสุขแบบโลกๆ) และ Yesod (การเก็บสะสม) ให้ได้ก่อน จากนั้นจะพุ่งตรงไปที่ Tiphareth หรือไปเดินอ้อมในเสา Mercy หรือ Severity ก่อนแล้วค่อยกลับเข้าไปที่ Tiphareth ก็ไม่ว่ากัน
ศาสนิกชาวคริสต์นั้น ใช้การรับเชื่อพระเยซูเป็นบานประตูเพื่อกลับคืนสู่สรวงสวรรค์ ดังจะเห็นว่า Tiphareth นั้นมีเส้นซึ่งเชื่อมตรงที่เป็นเหมือนลิฟท์อวกาศพุ่งตรงขึ้นสู่ Kether
ความจริงแล้วการจะกลับคืน Kether โดยไม่ผ่าน Tiphareth ก็ย่อมสามารถทำได้ (ท่านลองไปลากเส้นเดิมอ้อมดู) แต่แลดูเหมือนว่าจะเป็นเส้นทางที่อ้อมค้อมและยุ่งยากอยู่ไม่น้อย
การนำพาสภาวะจิตมายัง Tiphareth (พระบุตร) แล้วพุ่งตรงขึ้นสู่ Kether (พระบิดา) จึงดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีการที่ง่าย และน่าสนใจมากกว่า และเป็นวิธีการที่ศาสนิกชาวคริสต์เลือกใช้ในการเดินทาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น