ในหนังสือ “โหราศาสตร์ไทยระบบรังสีดาว” ของอาจารย์จรัญ เขียนสรุปหลักพยากรณ์ที่น่าสนใจเอาไว้ประการหนึ่งก็คือ
การพยากรณ์ในเชิงปรากฏการณ์ หรือเหตุการณ์ต่างๆ แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นก็จริง แต่เอาเข้าจริงก็มักทายพลาดกันได้ง่ายๆ และก็พลาดกันมานักต่อนักแล้ว
เช่นเห็นเสาร์จรมาถึงจันทร์กำเนิด (SAt = MOr) ก็ทายว่าแม่จะตายเมียจะป่วยบ้าง ซึ่งก็หน้าแหกกันมานักต่อนักแล้ว
ดังนั้นการพยากรณ์ใดๆ ก็ตาม จึงควรเริ่มต้นจากคำพยากรณ์ในเชิงจิตใจ อารมณ์ หรือความรู้สึก กันเสียก่อน
เช่นเสาร์จรมาถึงจันทร์กำเนิดก็ทายไปก่อนว่าจิตใจกำลังหม่นหมอง มีอารมณ์กลัดกลุ้ม อึดอัดใจ อะไรทำนองอย่างนั้น
หากคำพยากรณ์ในเชิงสภาวะจิตใจนี้ถูกต้องหรือใช้งานได้ เราก็ค่อยสืบค้นกันต่อไปอีกว่าจิตใจ อารมณ์ หรือความรู้สึกเหล่านั้น เกิดขึ้นมาจากเหตุการณ์ใด
เช่นที่ว่า หม่นหมองกลัดกลุ้มนั้น ก็อาจจะเนื่องด้วยแม่จะตายเมียจะป่วย อะไรทำนองอย่างนี้
การออกคำพยากรณ์ในลักษณะนี้เป็นที่นิยมกันในหมู่นักพยากรณ์รุ่นใหม่ ซึ่งพยายามหลีเลี่ยงการด่วนสรุปในเชิงเหตุการณ์ โดยมองว่าสภาวะของจิตใจ อารมณ์ หรือความนึกคิดต่างๆ ล้วนเป็นพื้นฐานหรือเป็นจุดเชื่อมโยงไปยังปรากฏการณ์ต่างๆ อีกที
ซึ่งการทายกันอย่างเป็นชั้นๆ เป็นขั้นๆ ไปอย่างนี้ โอกาสทายได้ถูกเรื่องถูกราวจะมีมากกว่า ไม่ต้องอาศัยโชคตัวเองในการทายโชคชาวบ้านอีกที
อุปมาเหมือนดั่งศิลปินก่อนจะแต่งเติมรายละเอียดให้กับรูปภาพ ก็ควรที่จะผ่านขั้นตอนในการร่างแบบคร่าวๆ ขึ้นมาเสียก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น