ดาวอังคาร(MA)ดวงเดียวนั้นตีความหมายได้มากมายหลายอย่าง โดยทั่วไปอังคารหมายถึงงานที่ทำ แต่จะแปลว่าอาชีพเสียทีเดียวก็ไม่เชิงนัก ในทางบุคลิกอังคารคือความ Aggressive ความความกระตือรือร้นในการพุ่งออกไปข้างหน้า คือ Action ที่แสดงออกในสังคม
ถามเรื่องเกี่ยวกับการงานหรืออาชีพจึงมักไปพิจารณากันที่อังคาร แต่ทางปฏิบัติจริงก็มักต้องพิจารณาพฤหัส(JU)ประกอบไปด้วย เพราะพฤหัสคือโชค คือการขยายตัวของชีวิต รวมถึงเรื่องของเงินทองทรัพย์สิน คนเราสมัยนี้ทำงานก็เพื่อเงินทอง งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข ก็มักจะพูดกันสนุกๆ กันจนติดปากกันมาอย่างนี้ซึ่งเราปฏิเสธก็คงไม่ได้
อังคารนั้นมาเจอเสาร์เมื่อใดมองมองว่าไม่ดี โหราศาสตร์คลาสสิกมีดาวน้อยก็มองว่าทั้งอังคารและเสาร์นั้นเป็นดาวร้ายทั้งคู่ ส่วนยูเรเนี่ยนมีดาวเยอะเลยลดความรุนแรงของอังคารลงเป็นดาวกลางๆ ไม่ร้ายไม่ดี แล้วแต่ไปเจอกับอะไร
อังคารเจอเสาร์ (MA=SA) โดยทั่วไปทายว่า “มรณะ” คือเป็นกิจกรรมของความพลัดพราก กิจกรรมของความทุกข์ ก็คืองานศพนี่แหละ แต่อย่างไรก็ตาม อังคารถึงเสาร์ก็มีความหมายอย่างอื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่นงานที่ทำด้วยความเหนื่อยยากก็ได้ งานที่ต้องใช้เวลานานก็ได้ งานที่เกี่ยวกับการเกษตรก็ได้ งานที่เกี่ยวข้องกับที่ดินก็ได้ หรือจะหมายถึงงานที่เกี่ยวกับการเรียนการสอนหรือก็คือคุณครูก็ได้เช่นกัน
เพราะทั้งความเหนื่อยยาก ต้องใช้เวลานาน เกษตร ที่ดิน หรือครู ก็ล้วนเป็นความหมายของเสาร์ทั้งสิ้น เอาไปรวมกับอังคารคืองานกรือกิจกรรมก็เลยมีความหมายต่างๆ ดังที่กล่าวไปแล้ว
เพราะฉะนั้นเห็นดวงใครมีอังคารถึงเสาร์ก็อย่างเพิ่งตกใจ ไม่ได้แปลว่าดวงนั้นจะอายุสั้นเสมอไป ต้องถามดูดีว่าเจ้าชะตาเป็นใครทำอาชีพอะไร ตกล็อคไหนของความหมายได้บ้าง
เช่นดูตัวอย่างดวงชะตานี้ (เจ้าชะตาเป็นผู้หญิง) จะเห็น MA=SA ชัดๆ ซึ่งก็อย่างที่บอกไปแล้วว่ามันแปลได้หลายอย่าง แปลว่ากรรมกรก็ได้ เกษตรกรก็ได้ ช่างก็ได้ งานที่ต้องเร่เดินทางตลอดเป็นอยู่ไม่เป็นหลักแหล่งก็ได้ หรือจะเป็นครูบาอาจารย์ได้ ก็จำเป็นต้องดูอื่นๆ ประกอบไปด้วย
เช่นดวงนี้นอกจาก MA=SA แล้ว เราจะเห็นว่า MO=NO=PO จับเป็นกลุ่มกันอยู่ แบบนี้โอกาสจะเป็นชาวไร้ชาวนาคงน้อยหน่อยเพราะโครงสร้าง MO=NO=PO นี้บ่งบอกว่าเจ้าชะตาเป็นผู้มีความรู้สูง ใช้ชีวิตเกี่ยวข้องกับแวดวงปัญญาชั้นสูง อีกทั้ง AP ที่หมายถึงธุระกิจหรือแวดวงวิชาการก็ยังถึง AS และ MC (ความจริง MA ก็ยังถึง KR ในมุมอ่อนอีกด้วย)
ทายว่าเป็นครูบาอาจารย์คนก็น่าจะเข้าท่าดี ปรากฏว่าเจ้าชะตานี้เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยก็ลงล็อคตรงนี้ไป (คนทายก็รอดตายไปเฮือกหนึ่ง) สมมุติเล่นว่าๆ ถ้าไม่ใช่ ก็คงต้องย้อนกลับตีความหมายกันใหม่ว่าโครงสร้างทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องอย่างไรกับสิ่งเป็นอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตามองค์ประกอบแบบนี้ควรลำบากหรือเหน็ดเหนื่อยอยู่ซักหน่อย (เป็นครูน่าจะสบายที่สุด) จะให้มานั่งกินนอนกินด้วยความสบายตัวก็คงไม่ใช่
ข้ามไปดูที่ JU (พฤหัส) จะเห็นว่าทำมุมถึง ZE ค่อนข้างจะสนิทองศา นอกจากนี้ยังทำมุม SU ด้วย เฉพาะ SU=ZE นี้แปลว่าวิศวกรก็ได้ ผมไม่ทราบว่าเจ้าชะตาเป็นอาจารย์สายไหนเพราะต้นทางเขาไม่ได้แจ้งมา แต่ถ้าทางสายวิศวะก็น่าจะถูกโฉลกดีไม่น้อย
SU=ZE นี้ความจริงแปลว่าให้กำเนิดบุตรก็ได้ เพราะ ZE คือการสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นส่วน SU คือกายสังขาร ถ้าเอา SU มาสนธิกับ JU ก็คือผู้มีทรัพย์มาก เฉพาะ SU นี้เราแปลว่าบิดาก็ได้ สามีก็ได้ ความจริงแปลว่าชายคนสำคัญอื่นๆ ในชีวิตก็ได้ เช่นพี่ชาย น้องชาย แต่ต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อชีวิตมากซักหน่อย ถ้าต่างคนต่างอยู่ก็ไม่ใช่
ทายกันแบบสนุกๆ SU=JU นี้แปลว่าอ้วน เพราะฉะนั้นถ้าอยากรวยก็อย่าอ้วน เดี๋ยวความอ้วนจะดึงเอาพลัง SU=JU นี้ไปใช้หมด ก็น่าเสียดาย
จะเห็นว่าโหราศาสตร์นั้นเป็นเรื่องของการวิเคราะห์ถึงโอกาสที่อาจเป็นไปได้ ไม่ใช่การสรุปแบบฟันธงฉับเดียวจบ ถ้าไม่ใช่อย่างนี้ก็อาจจะเป็นอีกอย่างหนึ่ง ดิ้นหนีอย่างนี้ไปเรื่อย แต่อยากไรก็ตามมันต้องอยู่ในกรอบ อยู่ในขอบเขตของมัน ไม่ใช่สักแต่กันว่ากันไปลอยๆ เอาพอให้มันโดนซักอันมันก็คงไม่ใช่
ดังนั้นการมองภาพเป็นวงกว้าง การพิจารณาถึงองค์ประกอบแวดล้อมอื่นๆ รวมไปถึงการได้พูดคุยสอบถามข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจเลือกคำพยากรณ์กับเจ้าชะตาโดยตรง จึงล้วนแล้วแต่มีผลเป็นอย่างมากต่อประสิทธิภาพของคำพยากรณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น