วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ราศี (Zodiac) และเรือนชะตา (Houses)


 ราศี (Zodiac) และเรือนชะตา (Houses) ความจริงเกือบเป็นเรื่องเดียวกัน


ราศีใช้จุดเริ่มต้นเป็นตำแหน่งบนท้องฟ้าแบบตายตัว (นิรายนะไม่ขยับเลย ส่วนสายนะขยับปีล่ะนิดด้วยอัตตาค่อนข้างคงที่) ส่วนเรือนชะตาใช้จุดลัคนาซึ่งอ้างอิงจากเวลาเกิดของแต่ละคนเป็นจุดเริ่มต้นในการตัดแบ่ง


ราศีจึงเป็นเรื่องมหาภาค ส่วนเรือนชะตาเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล


ราศีแบ่งท้องฟ้าออกเป็น 12 ส่วนด้วยพื้นที่ขนาด 30 องศาเท่ากัน ส่วน 12 เรือนชะตานั้นมีทั้งการตัดแบ่งด้วยค่า 30 องศาเท่ากัน และตัดแบ่งเป็น 12 ส่วนที่มีพื้นที่ไม่เท่ากัน ตรงนี้แล้วสำนักโหราศาสตร์ว่าจะเลือกใช้การตัดแบ่งแบบไหน


ราศีถูกกำหนดความหมายโดยการผสมผ่านของ เพศ คุณะ และธาตุ เกิดเป็นความหมายที่ค่อนไปทางนามธรรม ราศีทั้ง 12 จึงมักถูกตีความไปในเชิงบุคลิกภาพ


ในขณะที่เรือนชะตาทั้ง 12 มีความหมายค่อนไปทางรูปธรรม เป็นแง่มุมทั้ง 12 ด้านของชีวิต เรือนชะตาจึงมักตีความหมายไปในเชิงเหตุการณ์


ความจริงความหมายของเรือนชะตาและราศีนั้นสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน เช่นราศีที่ 1 (เมษ) ก็มีความหมายสอดคล้องกับเรือนชะตาที่ 1 (ตนู) ส่วนราศีที่ 2 (พฤษภ) ก็มีความหมายสอดคล้องกับเรือนชะตาที่ 2 (กดุมพะ) เช่นนี้เป็นต้น 


แต่ก็ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าราศีคือนามธรรม ส่วนเรือนชะตาเป็นรูปธรรม


โหราศาสตร์โดยทั่วไป ใช้ทั้งราศีและเรือนชะตาเป็นเครื่องมือสำคัญในการพยากรณ์ดวงชะตาผู้คน (ร่วมกับดาว จุดปัจจัยสมมุติ การทำมุมสัมพันธ์ และอื่นๆ)


แต่ยูเรเนี่ยนนั้นต่างออกไป เพราะปฏิเสธเรื่องของการใช้ราศีในการพยากรณ์ ส่วนเรือนชะตาก็ใช้เป็นเพียงส่วนเสริม โดยใช้ทฤษฏีพระเคราะห์สนธิ (ดาวเข้ารูป) เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างคำพยากรณ์


:)


วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ราหูเหนือใต้

ราหู (Node) เป็นจุดสมมุติบนท้องฟ้า หมายถึงจุดซึ่งเกิดการตัดกันระหว่างเส้นวงโคจรของโลก (รอบดวงอาทิตย์) และดวงจันทร์ (รอบโลก)

เนื่องจากเป็นจุดตัดกันระหว่างเส้นวงโคจ จึงเกิดเป็นจุดตัดขึ้นสองจุดซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกันเสมอ เรียกว่า “ราหูเหนือ” (North Node) และ “ราหูใต้” (South Node)

เฉพาะราหูใต้หรือ South Node นี้คนไทยเรามักเรียกว่า “เกตุ” แต่เพื่อไม่ให้ไปสับสนกับดาวเกตุไทยซึ่งเกิดจากคำนวณของโหราจารย์ไทยสมัยโบราณ (ซึ่งว่ากันว่าจริงๆแล้วคือดาวหาง) ก็เลยมักเรียกขยายไปอีกว่าเป็น “เกตุสากล” เพื่อไม่ให้ซ้ำกับ “เกตุไทย” (เกตุไทยโคจรเร็วกว่าและมีตำแหน่งซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับราหู)

ส่วนราหูเหนือเราก็เรียกง่ายๆ ว่า “ราหู”

ราหู (ราหูเหนือ) เป็นปัจจัยทางโหราศาสตร์ซึ่งแสดงถึงความปรารถนาของจิตใจ เพราะฉะนั้นมันจึงมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับสภาวะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า การมุ่งไปสู่ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงพัฒนา และ “อนาคต”

เนื่องจากราหูเป็น “แรงปรารถนา” เป็นแรงผลักดันที่แสนเย้ายวนที่มนุษย์ต้องเผชิญและยากต่อการปฏิเสธ ทำนองเดียวกับแมลงที่ปฏิเสธการมุ่งเข้าไปหากองไฟที่ลุกโชนได้ยาก ดังนั้นราหูจึงอาจเป็นสัญลักษณ์ของจุดอ่อนของแต่ละบุคคลก็ได้ด้วยเช่นกัน

นักโหราศาสตร์สมัยก่อนจึให้ความสำคัญกับราหูเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นดาวชี้อนาคตของคนเรากันเลยทีเดียว

สำหรับเกตุ (ราหูใต้) จะเป็นแสดงถึงแรงผลักดันซึ่งหนุนอยู่เบื้องหลัง (เป็นภาวะที่ตรงข้ามกับราหู) เกตุเป็นตัวแทนของพื้นฐาน ทรัพยากรที่มี เป็นคุณสมบัติพื้นฐานทางจิตใจที่มีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด มันเชื่อมโยงโดยตรงกับความทรงจำ จิตใต้สำนึก และประสบการณ์ทั้งหลาย

เพราะฉะนั้นเกตุจึงมีความเกี่ยวข้องกับ “อดีต” โดยตรง เป็นแรงผลักดันอันสืบเนื่องจากอดีต บางครั้งก็จะตีความความว่าเป็น “อดีตชาติ” หรือเป็นภาระกิจบางอย่างที่ค้างคาจากอดีตชาติและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการสะสางในชาตินี้

โดยรวมแล้วเราอาจกล่าวได้ว่า ชีวิตของคนเรานั้นได้รับพื้นฐานอันเป็นนามธรรมมาจากเกตุ เพื่อที่จะมุ่งหน้าไปสู่ราหูซึ่งเป็นแรงปรารถนาที่เป็นรูปธรรม

สำหรับสำนักยูเรเนี่ยน ราหูกับเกตุมักถูกมองรวมกันอย่างรวบยอด(โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการใช้ดวงชะตาแบบทดรอบองศา) โดยราหูจะเป็นเรื่องของพันธะ ความสัมพันธ์ ความผูกพันห่วงหาอาธรซึ่งเจ้าชะตามีต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว

ส่วนโหราจารย์ไทยหรืออินเดียมักมองราหูและเกตุไปในเรื่องของความลุ่มหลงมัวเมาต่ออะไรบางสิ่ง ราหูนั้นท่านว่าหลงรูป ในขณะเกตุนั้นท่านว่าหลงนาม

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2564

นักลงทุนรายใหญ่

ก่อนนอนดูซักดวง ขอตั้งเป็นราศีจักรก็แล้วกันเพราะดูง่ายประหยัดพลังงานสมอง

ดวงนี้บอกตรงๆดวงใครก็ไม่รู้ มิตรสหายส่งมาให้ดู รู้แต่ว่าเป็นดวงนักลงทุนรายใหญ่ระดับร้อยล้านอัพ มีชีวิตโลดแล่นขึ้นๆลงๆอยู่ในยุทธจักรนักลงทุน ซึ่งผมเข้าใจเอาเองว่าน่าจะจัดมาแล้วครบทั้งหุ้น ฟอร์เร็ก และคริปโต

เรื่องการลงทุนต่างๆ คนโบราณมองว่ามันคือความเสี่ยง เป็นความลุ้นระทึกไม่ต่างจากเข้าเข้าบ่อนหรือเล่นกีฬา (หรือกระทั่ง sex) โดยคุณสมบัติพวกนี้จะถูกนำไปกองรวมกันไว้ที่เรือน 5 ปุตตะ

ดวงนี้จะเห็นเรือน 5 ไม่มีดาวสถิต ก็ต้องดูต่อไปว่าเจ้าบ้านเรือน 5 นี้คือใครและหายไปไหน

เรือน 5 ในดวงชะตานี้คือราศีมีน เกษตรหรือเจ้าบ้านก็คือดาวเนปจูน ก็ไปอยู่เสียที่เรือน 2 ซึ่งเป็นเรือนการทำมาหากิน เราเอาความหมายของเรือน 5+2 คือ ลุงทุน+รายรับ ตรงนี้ก็ดูเหมาะสมดีกับชีวิตเจ้าชะตาดีไม่น้อย

เนปจูนเจ้าเรือน 5 นี้มาอยู่ร่วมกับพฤหัสซึ่งไทยมองว่าดาวปัญญาส่วนสากลมองว่าเป็นดาวทรัพย์ ดาวแห่งความเจริญรุ่งเรือง อีกดวงหนึ่งคืออังคาร ดาวแห่งการต่อสู้ดิ้นรน ไม่ยอมแพ้กันง่ายๆ

เฉพาะพฤหัสนี้เป็นเกษตร คือเป็นเจ้าบ้าน จึงเป็นพฤหัสแข็งแรงมั่นคง ส่วนอังคารเป็นเจ้าบ้านเรือน 1 โหรไทยเรียกตนุลัคน์เป็นตัวแทนบุคลิภาพของเจ้าชะตา มาอยู่เรือนที่เรือน 2 อย่างนี้ทำให้เจ้าชะตารักการทำมาหากิน แต่ด้านเสียก็คือถ้าควบคุมไม่ดีก็จะกลายเป็นโลภโมโทสัน วัตถุนิยมจนหยาบกระด้าง

ดวงนี้เราจะเห็นราหูและเกตุรวมพลังกันเล็งลัคน์อยู่ที่ฝั่งตรงข้าม ตรงนี้ทำให้เรือน 7 พังแบบไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะเกตุนั้นค่อนข้างสนิทองศากับลัคนาเคลื่อนกันเพียงไม่กี่สิบลิปดา ตรงนี้ทำให้เจ้าชะตาเป็นคนกล้าลองกล้าเสี่ยง ชอบทำอะไรแปลกๆที่ชาวบ้านชาวช่องไม่คิดทำกัน

ทั้งราหูและเกตุเป็นเจ้าเรือน 8 มรณะ มารวมพลังกันที่เรือน 7 แบบนี้ทำให้เรือน 7 พังแล้วพังอีกแน่ๆ โดยเจ้าแบคคัสเจ้าเรือน 7 นั้นไปอยู่เสียที่เรือน 9 ศุภะ ดวงนี้ถ้าได้เป็นคนต่างชาติจะไม่แปลกใจเลย

ปิดท้ายดวงนี้ด้วยเรือน 10 ก็แล้วกัน ปรากฏว่าเรือน 10 ก็ว่างอีก ก็ดูต่อไปว่าเจ้าเรือน 10 นี้เป็นใครไปอยู่เสียที่ไหน

ในดวงชะตานี้อาทิตย์เป็นเจ้าเกษตรเรือน 10 เรือนแห่งเกียรติหรือหน้าที่การงาน จะเห็นว่าอาทิตย์นี้ไปอยู่ที่เรือน 12 ลักษณะแบบนี้เจอได้บ่อยๆ กับพวกผู้บัญชาการอยู่หลังฉากเงียบๆ ไม่ออกสื่อ ไม่ออกเป็นเป้าสังคม (เพราะเมื่อไหร่ก็พังเมื่อนั้นตามพลังของเรือน 12 วินาศน์คือสูญเปล่า)

โดยอาทิตย์นี้อยู่เรือน 12  ร่วมกับเสาร์เจ้าเรือน 3 พี่น้องมิตรสหสาย และพลูโตเจ้าเรือน 6 บริวารและลูกสมุนทั้งหลาย

เฉพาะเสาร์นี้เป็นอุจ โดดเด่นเรืองรองแม้อยู่ในมืดก็เปล่งแสง ตรงนีคงมีส่วนช่วยเจ้าชะตาอยู่มากโขทีเดียว

:)