วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2563
สรุปวิธีการพยากรณ์
สรุปวิธีการพยากรณ์(ยูเรเนี่ยน)
--------------------------------------------
1. พยากรณ์โดยการใช้ “ตำแหน่งสัมพันธ์” แต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการพิจารณาถึงอิทธิพลของดาวเคราะห์หรือปัจจัยในจักรราศีหรือเรือนชะตา
--------------------------------------------
2. กำหนดให้ตำแหน่งสัมพันธ์ “สะท้อน” มีความสำคัญเสมือนกับตำแหน่งสัมพันธ์กับปัจจัยชนิดต่างๆทั่วไป
.
คำว่าตำแหน่งสัมพันธ์สะท้อนหมายถึงการที่ดาวเคราะห์หรือปัจจัยหนึ่งไปสถิตได้ตำแหน่งสัมพันธ์กับ “จุดสะท้อน” ของดาวเคราะห์หรือปัจจัยอีกดวงหนึ่ง
.
“จุดสะท้อน” หมายถึงจุดสะท้อน(หรือเงา)อันเกิดจากแกนโลก(แนว กรกฎ-มกร) หรือศูนย์สูตรโลก (แนว เมษ-ตุล)
.
ในทางทฤษฎีถือแกนโลกเป็นหลัก แต่ในทางปฏิบัติจะถือศูนย์สูตรโลกเป็นหลักแทนเพราะง่ายแก่การคำนวณ
.
สมผุสของจุดสะท้อนอาจคำนวณได้ตามสูตร “เมษ+เมษ-ดาว” (หรือ 360 องศา-ดาว)
.
ตัวอย่างเช่น ดาวพฤหัสสถิตราศีเมถุน 23 องศา 30 ลิปดา(แปลเป็นค่าองศาคือ 83 องศา 30 ลิปดา)
.
ดังนั้นสมผุสของจุดสะท้อนดาวพฤหัสคือการเอา 360 องศาไปลบ 83 องศา 30 ลิปดา แล้วแปลค่ากลับไปเป็นราศี ผลลัพธ์คือตำแหน่ง ราศีมกร 6 องศา 30 ลิปดา ตำแหน่งนี้ก็คือจุดสะท้อนของดาวพฤหัส
.
ดังนั้นหากดาว A มาสถิติที่ราศีเมษ 6 องศา 28 ลิปดา หมายความว่าดาว ก. นี้ก็จะได้ตำแหน่งสัมพันธ์กับจุดสะท้อนของดาวพฤหัส (สัมพันธ์กันด้วยมุม 90 องศา ระยะวังกะไม่เกิน 10 ลิบดา)
--------------------------------------------
3. ดาวเคราะห์หรือปัจจัยใดๆ ก็ตามหากสถิตได้ตำแหน่งสัมผัสกันกับดาวเคราะห์หรือปัจจัยนั้นๆ จะผสมอิทธิพลกันเหมือนกับการผสมธาตุในวิชาเคมี
.
ตัวอย่างเช่น อังคาร=พฤหัส
.
ดังนั้นตรงตำแหน่งของดาวอังคารจะมีอิทธิพลที่เป็น “กิจกรรมที่ก่อให้เกิดความสุข” ส่วนที่ตำแหน่งของดาวพฤหัสบดีจะมีอิทธิพลเป็น “ ความสุขจากการทำงาน” เช่นนี้เป็นต้น
--------------------------------------------
4. ปัจจัยและดาวเคราะห์ที่แสดงอิทธิพลเป็น “เจ้าชะตา” ในดวงชะตาคือ “เมอริเดียน เมษ อาทิตย์ ลัคนา จันทร์ ราหู” นิยมเรียกจุดเหล่านี้ว่า “จุดเจ้าชะตา”
.
จุดเจ้าชะตาทั้ง 6 นี้จะแทนตัวแทนเจ้าชะตาในฐานะต่างๆ กันกล่าวคือ
.
จุดเจ้าชะตากลุ่มแรกมีอิทธิพลเป็น “เจ้าชะตา” โดยตรงได้แก่
.
เมอริเดียน มีอิทธิพลเป็น “สัญชาตญาณ” ของเจ้าชะตา (ตัวกู)
จันทร์ มีอิทธิพลเป็น “จิตสังขาร” ของเจ้าชะตา (ใจหรืออารมณ์)
อาทิตย์ มีอิทธิพลเป็น “กายสังขาร” ของเจ้าชะตา (ร่างกาย)
.
และกลุ่มที่สองมีอิทธิพลเป็น “เจ้าชะตา” ทางอ้อมได้แก่
.
ราหู มีอิทธิพลเป็น “สัญชาตญาณในการรวมกลุ่ม”
ลัคนา มีอิทธิพลเป็น “สิ่งแวดล้อม”
เมษ มีอิทธิพลเป็น “โลก” (ในความหมายอย่างกว้าง)
หมายความว่าหากมีดาวดวงใดมาทำมุมสัมพันธ์เข้ากับจุดเจ้าชะตาเหล่านี้ อิทธิพลของดาวดวงนั้นย่อมส่งผลถึงชีวิตของตัวเจ้าชะตาตามแง่มุมซึ่งเป็นความหมายหรือคุณสมบัติของจุดเจ้าชะตานั้นๆ
--------------------------------------------
5. ตรงจุดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างพระเคราะห์หรือปัจจัยคู่ใดๆ ก็ตาม จะมีคุณสมบัติคล้ายกับเป็นดาวพระเคราะห์อีกดวงหนึ่ง และมีอิทธิพลที่เป็นการผสมอิทธิพลระหว่างปัจจัยคู่นั้นๆ เข้าด้วยกัน
.
วิชาโหราศาสตร์เรียกจุดดังกล่าวนี้ “ศูนย์รังสี”
.
ตัวอย่างเช่น จุดกึ่งกลางระหว่างดาวพุธกับดาวพฤหัส (ME/JU) จะมีอิทธิพลเป็นอิทธิพลผสมกันระหว่างดาวพุธกับดาวพฤหัส คือ “อารมณ์ดี” หรือ “ช่างพูด” เป็นต้น
.
6. ใช้สิ่งที่เรียกกันว่า “จุดอิทธิพล” สำหรับพยากรณ์ในรายละเอียดต่างๆ ที่ดาวพระเคราะห์หรือปัจจัยเพียงดวงเดียวไม่สามารถให้คำพยากรณ์ชี้ชัดได้ (ศูนย์รังสีก็คือจุดอิทธิพลชนิดหนึ่งเหมือนกัน)
--------------------------------------------
--------------------------------------------
เรียบเรียงจากหนังสือ “คัมภีร์พระเคราะห์สนธิ” อาจารย์ พลตรี ประยูร พลอารีย์
ป้ายกำกับ:
ยูเรเนี่ยน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น