วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ความเชื่อบางอย่างในหมู่นักพยากรณ์

มีเรื่องนึงอยากเขียนถึงมานานแล้ว ที่จริงก็ไม่ค่อยเกี่ยวกับโหราศาสตร์โดยตรงเสียทีเดียว ดังนั้นใครไม่ชอบขอให้ข้ามๆไป

ก็คือความเชื่อบางอย่าง ที่มีกันมานานแล้วในหมู่นักพยากรณ์โดยเฉพาะคนที่ทำเป็นอาชีพ นั่นก็คือความเชื่อที่ว่า … “ถ้าไปดูดวงไขความทุกข์ให้กับคนอื่น ก็จะโดนเจ้ากรรมนายเวรของคนๆ นั้นตามมารังควานได้” 

ก็ทำนองว่าไปช่วยแก้เคราะห์กรรมให้คนอื่นเขาแล้วก็เลยทำให้เจ้ากรรมนายเวรไม่พอใจ เพราะตามทวงเวรกรรมจากตัวคู่กรรมของเขาไม่ได้ สุดท้ายก็เลยพาลมาลงกับตัวหมอดูแทนนี่แหละ สาระแนดีนัก หมอดูก็ซวยกันไป อะไรประมาณนั้น

ความเชื่ออย่างนี้ว่ากันตามตรงก็เป็นพิสูจน์ยาก แล้วแต่ใครจะเชื่อไปทางไหน มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เท่าที่สังเกตดูทั้งสองฝั่งก็มีมากพอกัน

คนที่เชื่ออย่างนี้ก็ยืนยันหนักแน่นว่าดูดวงช่วยเขาทีไรเป็นอันของเข้าตัว ลำบากตัวเองทุกที ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็ยืนยันหนักแน่นเหมือนกันว่าดูดวงมาเป็นพันดวงก็ไม่เห็นเป็นอะไรสักที ชีวิตยังสุขสบายดีมีความสุขความเจริญได้ตามอัตภาพ

จะเชื่อใครดี?

ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือ “จริงทั่งคู่”

หลักจิตวิทยาสำคัญข้อหนึ่งกล่าวว่า “ความเชื่อคือความจริงสำรับทุกคน” และที่สำคัญคือ “ทุกคนล้วนมีความเชื่อเป็นของตนเอง” สรุปคือใครเชื่ออย่างไรชีวิตก็ย่อมต้องไปตามนั้น และคุณกับผมไม่จำเป็นต้องเชื่อเหมือนกัน ดังนั้นความจริงสำหรับแต่ละบุคคลจึงอาจเป็นเรื่องที่แตกต่างกัน

ใครเชื่อว่าซวยก็ซวยไป ใครเชื่อว่าเฮงก็เฮงนั่นแหละ

เอากันง่ายๆ อย่างนี้เลย ไม่ต้องไปเสียเวลามาโต้เถียง พิสูจน์ หรอหาข้อยุติให้ยุ่งยาก

ดังนั้นตามหลักจิตวิทยาจึงไม่สนใจว่าใครจะเชื่อแบบใหน แต่จะสนใจตรงที่ว่า “เชื่อแล้วชีวิตได้อะไร?”

เชื่อว่าดูดวงแล้วของจะเข้าเจ้ากรรมนายเวรจะตามมาทวง หรือจะเชื่อว่าการดูดวงคือการบำเพ็ญกุศลเพราะได้ช่วยเหลือคน (ถ้าไม่คิดหลอกแดกคนอื่น) ยิ่งช่วยชีวิตจึงยิ่งเจริญ

เรื่องพวกนี้ไม่ต้องเสียเวลามาเถียงกัน เพราะใครเชื่ออย่างไรชีวิตย่อมเป็นจริงไปตามนั้น

แต่เชื่อแล้วยังไงต่อ สร้างสรรค์ต่อตนเองหรือไม่ อันนั้นแหละประเด็นที่แต่ละจะต้องถามตัวเอง


:) 


วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2566

เรือนชะตาอาชีพ

 ในแง่ของเรือนชะตา เรือนชะตาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องงาน โดยทั่วไปถือว่ามีอยู่ 2 เรือน คือเรือน 6 (อริ) กับเรือน 10 (กัมมะ)


เรือน 6 เป็นเรือนแห่งความยากลำบากในชีวิต คนเราขึ้นชื่อว่าทำงานประกอบเป็นอาชีพแล้ว ล้วนเจอปัญหาเจอความยากลำบากกันทุกคน มีใครสบายบ้าง?

ส่วนเรือน 10 เป็นเรือนแห่งเกียรติ ชื่อเสียง การได้รับการยอมรับจากสังคม ก็อย่างที่เขาว่านั่นแหละ คือคุณค่าของคนอยู่ผลของงาน

ทำงานอะไร ลำบากลำบนแค่ไหนจึงอาจบอกได้ด้วยเรือน 6 แต่จะสำเร็จอย่างไรรุ่งโรจน์มากแค่ไหน(หรือด้วยอะไร)อาจต้องไปดูที่เรือน 10

บางทีอาจรวมไปถึงเรือน 2 (กดุมพะ) ด้วยเพราะเป็นเรือนแห่งรายได้ รายรับ  ทรัพย์สินซึ่งเราเป็นผู้แสวงหามาเอง เพราะคนเราสมัยนี้ทำงานก็เพื่อเงิน เราอยู่ในโลกทุนนิยมต้องใช้รายรับเป็นตัวขับเคลื่อนชีวิต ถ้าทำฟรีถึงจะทำแล้งรุ่งแค่ไหนคงไม่อาจเรียกว่าอาชีพได้

สรุปแล้วการทายว่าใครทำอาชีพอะไรไม่ใช่ของง่าย เพราะมีอะไรให้ต้องคอดเยอะไปหมด ยิ่งสมัยนี้อาชีพแปลกๆ เยอะก็ยิ่งทายยาก ทายเป็นแนวกว้างๆ ก็อาจพอไหวแต่ให้ทายเฉพาะเจาะจงคงลำบากเพราะบางอาชีพพูดไปจะหาคนรู้จักยังแทบจะไม่มี

ทำอาชีพอะไรจึงทายยาก แต่ควรจะไปทำอาชีพอะไรก็อาจจะทายกันง่ายกว่า

อาชีพที่กำลังทำอยู่นี้เหมาะแหล้วหรือไม่? หรือถ้าไม่พอใจจนอย่างจะเปลี่ยนก็ควรต้องเปลี่ยนไปทางไหน? ทายกันอะไรแบบนี้ดูเหมือนจะได้ประโยชน์กว่า


:) 


วันอังคารที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ราหูเหนือใต้

เป็นเรื่องธรรมดา หากแต่ละสำนักจะกำหนดนิยามความหมายของแต่ละปัจจัยที่แตกต่างกันออกไปบ้าง (มองกันคนล่ะจุดบ้าง) เช่นจุดราหู (North Node) นี้ สำนักยูเรเนี่ยนให้ความหมายหลักเอาไว้ว่า ความสัมพันธ์ ความเกี่ยวข้อง พันธะ หรือความรู้สึกผูกพัน ซึ่งเป็นความหมายกลายๆ ไม่ร้ายไม่ดี แต่แต่ว่าจะไปอยู่เรือนไหนหรือทำมุมสัมพันธ์กับปัจจัยอื่นๆ อะไรบ้าง

ในโหราศาสตร์ไทยนั้นโดยมากให้ความหมายของราหูไปในทางร้าย เช่นความลุ่มหลงมัวเมา โมหะจริต หรือจิตใจฝ่ายต่ำ อะไรทำนองอย่างนั้นเพราะอาจจะไปจับเทวะตำนานที่ว่าราหูเป็นอสูร โดยอาจารย์หลายท่านได้ให้ความเห็นว่าความจริงแล้ความหมายเหล่านี้ก็คือเรื่องของพันธะ หรือความรู้สึกผูกพัน เช่นกันเพียงแต่เป็นไปในลักษณะที่สุดโต่ง ไร้การควบคุม

ในวิชาโหราศาสตร์สากลบางสำนัก ให้นิยามจุดราหู (North Node) นี้ว่า “ความมุ่งมาดปรารถนาในชาตินี้” คือหมายความว่าใครเกิดแล้วใช้ชีวิตดิ้นรนเข้าไปหาสิ่งใดเรื่องอะไรก็ให้พิจารณากันที่จุดราหูนี้

เช่นราหูอยู่เรือน 2 ก็ดิ้นรนแสวงหาทรัพย์ หรือถ้าราหูอยู่เรือน 3 ก็ดิ้นรนแสวงหาการพบปะ(ยอมรับ)จากผู้คนรอบตัว อะไรทำนองอย่างนี้ นอกจากนี้ก็อาจจะพิจารณาต่อไปอีกว่าแล้วจุดราหูนี้ไปทำมุมสัมพันธ์กับดาวอะไรอีกบ้าง ก็แปลความเป็นคำพยากรณ์กันไปตามเหมาะสม

เมื่อพูดถึงราหูที่หมายถึงจุด North Node แล้วก็ควรกล่าวถึงจุดตรงข้ามของมันด้วย นั่นก็คือเกตุสากล (South Node) ซึ่งมักถูกกำหนดความหมายให้เป็นเรื่องของนามธรรมหรือเรื่องในอดีต เช่นในกรณีนี้เมื่อ ราหู (North Node) หมายถึง ความมุ่งมาดปรารถนาในชาตินี้ ดังนั้นเกตุสากล (South Node) จึงถูกกำหนดให้เป็นภาวะตรงข้าม คือหมายถึงประสบการณ์จากอดีตชาติอันทำให้เจ้าชะตารู้สึกเต็มอิ่ม เฉยชา หรือปล่อยวาง ต่อเรื่องนั้นๆ

สังเกตว่า ราหู (North Node) คือเรื่องอนาคต ส่วนเกตุสากล (South Node) คืออดีต ราหูคือความปรารถนา ในขณะที่เกตุสากลคือความเต็มอิ่มเสียจนรู้สึกว่าฉันพอต่อสิ่งเหล่านี้แล้วจึงไม่ปรารถนาต่อสิ่งเหล่านี้อีกต่อไป เป็นภาวะซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน

จะเห็นว่าใช้คำว่า “เกตุสากล” เพราะคือคนล่ะอย่างกับเกตุไทยที่ใช้ในวิชาโหราศาสตร์ไทย(ซึ่งมีผู้รู้ท่านสันนิษฐานว่าคือดาวหาง) ดังนั้นบางแห่งจึงตัดปัญหาเรียกเป็น ราหูเหนือ-ราหูใต้ แยกออกจากเกตุโดยเด็ดขาดเพื่อไม่ให้ต้องสับสนกันอีก

:)